‘ยอ’สมุนไพรสารพัดประโยชน์

ยอ(Morinda citrifolia L.) เป็นพืชที ถูกนำมาใช้ประโยชน์มายาวนาน โดยพื้นบ้านครั้งแรกเมื่อ 2000 ปี มาแล้ว โดยชาวโปลีนิเซีย แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินเดีย จีน และประเทศไทย ยอเป็นสมุนไพร่ที่อยคูู่คนไทยมานาน ในสาธารณะสุขมูลฐานใช้ผลยอแก้อาเจียน เจริญอาหาร ใบคั่นน้ําใช้สระผมแก้เหา หรือทารักษาโคเกาต์ ปวดข้อ รากเป็นยาระบาย ส่วนลำต้นและดอกใช้ในการรักษาวัณโณค

ในสมัยโบราณชาวไทยมักนิยมปลูกต้นยอไว้ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นมงคลนาม โดยเชื่อว่าจะได้มีผู้คนสรรเสริญเยินยอและจากการปลูกต้นยอนี้เองทำให้มีการนำส่วนประกอบต่าง ๆ ของยอมาประกอบอาหารและ เป็นเครื่องดื่ม เช่น ห่อหมกใบยอ น้ำลูกยอ เป็นต้น เช่น ห่อมหกจากประโยชน์ของยอที นำมาใช้ใการต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่น ไวรัส เช่น HIV ต้านวัณโรค ลดความเจ็บปวด และมีฤิทธิ์ในการขับพยาธิอีกด้วย

ยอเป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกใช้ในการต้านมะเร็งได้ นอกจากนี้พบว่าสารสกัดจากราก และน้ำยอมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิตได้ สารสกัดจากราก ใบและผลของยอมี vitamins C, E, α-tocopherol, β-carotene และสารกลุ่ม polyphenolics ในปริมาณที่แตกต่างกัน ซึ่งสารเหล่าน ล้วนมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระนี้จะสัมพันธ์กับฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และชะลอความเสื่อมของผิวหนัง บำรุงผิวพรรณได้ เป็นต้น

จากประโยชน์ต่าง ๆ ของยอ ทำให้ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยออยู่จำนวนมากมาย เช่น น้ำลูกยอ สบู่ลูกยอ ชายอ ยาแคปซูลลูกยอ เป็นต้น จากประโยชน์อันมหาศาลของยอทำให้หลายคนสนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยอมากขึ้น และหลายคนก็ยังสงสัยอยวู่า รับประทานยอเป็นระยะเวลานานหรือถ้ารับประทานมากเกินไป จะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่ คำตอบจากการวิจัยที่ทำในหนูถีบจักร พบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดจากยอ 10 กรัมต่อกิโลกรัมของหนูนั้นไม่ทำให้หนูเกิดอาการผิดปกติหรืออาการเป็นพิษแต่อย่างใด และเมื่อทดสอบความเป็นพิษเรื้อรังพบว่าการได้รับสารสกัดจากยอ 600 และ 1200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมหนู ทุกวัน นาน 1 เดือน ไม่พบความผิดปกติใด ๆ ดังนั้นการรับประทานยอเป็นเวลานานไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่อย่างไรก็ตามการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้นควรได้รับคำแนะนำแพทย์ก่อนทุกครั้ง

Scroll to Top